Previous Page  25 / 44 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 25 / 44 Next Page
Page Background

คนที่สำคัญหมด เราจะชวยเหลือ เรียนรูจากกันและกัน เราจะ

ขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไมได มีการแลกเปลี่ยน (Share) สิ่งที่

ทำสำเร็จ สิ่งที่ผิดพลาด โดยไมมีการแทงกั๊ก มีแตความบริสุทธิ์

ใจ โดยในใจยึดมั่นวาเรากำลังทำเพื่อสิ่งที่เราตองการรวมกัน

ไมเห็นแกตัว ไมปดบังซอนเรน และยึดกรอบความคิดแบบ

ชนะ - ชนะ (Think win - win) วา ถาเพื่อนได เราก็ได ถา

องคกรได เราก็ได ทำไดอยางนี้การเรียนรูก็จะเกิดขึ้นในทีม

อันดับสุดทาย :

สิ่งหนึ่งตองกระทบอีกสิ่งหนึ่งเสมอ

ยุคนี้ สมาชิกในทีมตองมี

การเรียนรูในการมองภาพใหญ

ใหเปน

ตองมองใหออก

อยามองแตหนาตักตัวเอง

และมองให

เห็นความเชื่อมโยงของความสัมพันธของสิ่งตาง ๆ วาเมื่อเกิด

สิ่งหนึ่งสิ่งใดขึ้น หรือเมื่อมีการกระทำใด ๆ เกิดขึ้น ยอมสงผล

กระทบตอสวนอื่น ๆ เสมอ เราเรียกวา Systems Thinking

การเรียนรูที่กลาวมาจะเกิดขึ้นไดก็ตอเมื่อในองคกรมีสภาพ

แวดลอมที่เอื้อตอการเรียนรู เชน มีการพูดจากันแบบเปดเผย

มีบรรยากาศที่เปดกวาง (Openness) พรอมที่จะรับฟงความคิด

เห็นของผูอื่น มีความเคารพซึ่งกันและกัน (Mutual Respect)

มีความยึดมั่น มุงมั่น ตอสิ่งที่ไดตกลงรวมกัน (Commitment)

มีความรูสึกปลอดภัยเมื่อตองการพูดหรือนำเสนอ (Safe to take

risk) ในสิ่งที่ไมเห็นดวย (OK to disagree) ไมมีเจานายหรือผูมี

อำนาจแบบเผด็จการ (No Dictators) และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ

ตองมีความไวเนื้อเชื่อใจ (Trust) ซึ่งกันและกัน เหลานี้เปนตน

แนวความคิดดังกลาวขางตนเปนของ Dr. Peter M.

Senge ผูเขียนหนังสือ The Fifth Discipline ซึ่งหากเราไดใช

ความพยายามในการนำแนวคิดนี้มาปฏิบัติและหลอหลอมทำให

เปนวัฒนธรรมองคกร ก็จะทำใหองคกรมีสุขภาพกายและใจที่ดี

มีการเติบโตอยางไมหยุดยั้งและยั่งยืนได ซึ่งแนนอนวาเรื่องเหลา

นี้ไมสามารถเกิดไดชั่วขามคืน ไมใชเปน Quick Fix Solution

แตสมาชิกขององคกรจะตองมีการคิด มีการปฏิสัมพันธกัน และ

ทำงานรวมกันในรูปแบบใหม (New way of thinking ,

interacting , and working together) ซึ่งนับวาเปนเรื่องที่ทาทาย

หากทำได เชื่อวาสมาชิกในองคกรสามารถปรับเปลี่ยน

ความคิดใหมีคุณภาพ (Quality of Thinking) ได และสงผล

ใหการกระทำหรือการทำงานมีคุณภาพตามมา (Quality of

Actions) เมื่อการทำงานมีคุณภาพยอมทำใหผลงานที่ออกมามี

คุณภาพดวย (Quality of Results) และแนนอนที่สุดความ

สัมพันธระหวางสมาชิกในที่ทำงานยอมมีคุณภาพตามมาดวย

เห็นไหมละ ฟง ๆ ดูแลวเหมือนจะเปน Common Sense

หากแตไมใช Common Practice เอาซะเลย

ขอมูล :

http://www.tistr.or.th

โดย ดร.เกศรา รักชาติ: Ph.D.Leadership and Human Behavior

เราตองการไดผลลัพธ (Results) อยางที่

เราตองการรวมกันนั้น จำเปนตองมี

การแลกเปลี่ยน เรียนรู สิ่งที่เปน

กรอบความคิดของซึ่งกันและกัน ไมใช

ยึดถือความคิดของใครของมันเปนหลัก

อันดับสาม :

เปนคนเกงที่เปนคนดี

หากสมาชิกในบานมีการเรียนรูถึงการสรางวิสัยทัศน

สวนตัว (Personal Vision)

การสรางเปาหมายสวนตัวในการ

ทำงาน

ในแตละวัน แตละอาทิตย ไปจนถึงมีการสราง Personal

Vision เกี่ยวกับงานอาชีพที่กำลังทำอยู ใหสอดคลองหรือเปน

ไปในทิศทางเดียวกันกับวิสัยทัศนขององคกร (Corporate

Vision) ก็จะทำใหเราทำงานไดบรรลุผลอยางที่เราตองการ

จริง ๆ แตตองไมลืมที่จะยึดถือเอาคานิยมหลักขององคกร

(Corporate Values) มาถือปฏิบัติดวย การมี Personal Vision

จะทำใหเราใฝเรียน ใฝรู ทุมเท ฝกฝน พัฒนาตัวเองอยูเสมอ ๆ

เพื่อที่จะไดเปนผูเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพของตนเอง เมื่อเราเกง

และเปนคนดีไปพรอม ๆ กันจะสงผลใหเราประสบผลสำเร็จได

อยางยั่งยืน แนนอนวาองคกรหรือบานเราก็จะเติบโตอยาง

สวยงามไปในตัว

อันดับสี่ :

ตองสอดคลองกัน

สมาชิกทุกคนในบาน ตองมีการเรียนรูถึงการ

มีวิสัยทัศน

รวมกัน

(Shared Vision) ไมวาจะเปนวิสัยทัศนของทีม ของ

หนวยงาน หรือ ขององคกร เพราะวิสัยทัศนเปรียบเสมือน

เข็มทิศที่จะกำหนดวาอนาคตจะเดินไปในทิศทางใดดวยกัน

ซึ่ง Personal Vision ของสมาชิกในทีมจะตองมีสวนคลายคลึง

กัน มีความตองการเหมือน ๆ กัน และที่สำคัญ ตองสอดคลอง

กับ Corporate Vision ดวย ในจุดนี้จะทำใหเราเรียนรูวาถาเรา

ไมเริ่มตนจากการเขาใจกรอบความคิด (Mental Models)

ของตนเองและผูอื่น หรือถาเรายังไมเขาใจซึ่งกันและกัน ไมพูด

ไมฟงกัน ยึดติดกับตัวเองเปนหลัก จะทำใหไมเกิดการ Shared

Vision ได

อันดับหา :

ถาเพื่อนได เราก็ได

เราตองมีการ

เรียนรูรวมกันในทีม

(Team Learning)

สมาชิกทุกคนในทีมเรียนรูรวมกัน เพื่อที่จะทำใหวิสัยทัศนเปน

จริงได และสมาชิกในทีมจะตองมีความรูสึกวาทุกคนในทีมเปน