กปภ.ชี้ CAMPAIGN รณรงค์วิกฤตแผ่นดินทรุดช่วยกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหา

14 มิถุนายน 2548


กปภ.ชี้ CAMPAIGN รณรงค์วิกฤตแผ่นดินทรุดช่วยกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหา

      การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ชี้ภายหลังจัดทำ CAMPAIGN รณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการหยุดวิกฤติแผ่นดินทรุดในพื้นที่ จ.นครปฐมและสมุทรสาคร พบว่า ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้ตระหนักถึงปัญหาและปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำประปาผิวดินแทนการใช้น้ำบาดาลเพิ่มขึ้น

        ดร.ประเสริฐ เชื้อพานิช ผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปิดบ่อบาดาลในเขตพื้นที่ กทม. และปริมณฑลรวม 7 จังหวัด เพื่อยุติการสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้และลดภาวะเสี่ยงภัยจากแผ่นดินทรุดตัว ยกเว้นอุตสาหกรรมบางประเภทที่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำบาดาลในกระบวนการผลิต เช่น ฟอกย้อมสิ่งทอ เหล็กเคลือบ ฟอกหนัง ที่อนุญาตให้ใช้น้ำผิวดินควบคู่กับน้ำใต้ดินได้ กล่าวคือในส่วนของกระบวนการผลิตรัฐบาลยังผ่อนผันให้ใช้น้ำบาดาลได้ แต่ส่วนของการอุปโภคบริโภคให้ใช้น้ำประปา โดยให้การประปาส่วนภูมิภาคและการประปานครหลวงสร้างระบบผลิตน้ำประปาผิวดินขึ้นมารองรับความต้องการใช้น้ำประปาของประชาชนและผู้ประกอบการอย่างเพียงพอนั้น

         กปภ. ในฐานะหน่วยงานที่ให้บริการเชิงสังคมและได้ร่วมรณรงค์รักษ์สิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ได้ดำเนินการรองรับนโยบายดังกล่าว ด้วยการติดตั้งวางท่อส่งน้ำผิวดินเข้าไปในพื้นที่รับผิดชอบของ กปภ. ใน จ.นครปฐมและ จ.สมุทรสาคร รวมทั้งได้จัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเชิญชวนผู้ประกอบการและประชาชนในบริเวณพื้นที่ที่มีท่อประปาผิวดินผ่านแล้วให้หันมาใช้น้ำประปาผิวดินเพื่อช่วยกันคืนสมดุลให้แผ่นดิน ปรากฏว่า ภายหลังจากที่ได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ มีผู้ใช้น้ำประเภทบ้านพักอาศัยและธุรกิจขนาดเล็กได้มาขอติดตั้งประปาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และมีผู้ประกอบการประเภทอุตสาหกรรมและธุรกิจขนาดใหญ่มาขอติดตั้งประปาจำนวน 548 ราย แต่มีอัตราการใช้น้ำประปาผิวดินเพียง 27.38 % ของปริมาณการใช้น้ำจริงเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังมีการใช้น้ำบาดาลในปริมาณสูงมาก และหากนำมาใช้มากเกินไปจนธรรมชาติทดแทนไม่ทัน อาจจะทำให้น้ำเค็มไหลเข้าทดแทนน้ำบาดาลในแต่ละชั้นน้ำได้ ซึ่งการจะทำให้กลับคืนสู่สภาพดั่งเดิมนั้น ต้องใช้เวลานานหลายสิบปี

          กปภ. จึงวอนขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในพื้นที่ดังกล่าวให้เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะเป็นการรักษาสมดุลทางธรรมชาติแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนในส่วนอื่นๆ อาทิ ค่าสุขภัณฑ์ของโรงงานที่เสื่อมสภาพเนื่องจากการใช้น้ำบาดาล ค่าสารเคมี และค่าแรงพนักงานที่จ้างเพื่อทำการผลิตน้ำใช้เอง

 
เลื่อนขึ้นข้างบน