การประปาส่วนภูมิภาคสาขาชุมพรร่วมกิจกรรมในพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

25 เมษายน 2565


การประปาส่วนภูมิภาคสาขาชุมพรร่วมกิจกรรมในพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

#การประปาส่วนภูมิภาคสาขาชุมพรร่วมกิจกรรมในพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
วันนี้ (25 เม.ย.65) เวลา 09.00 น. นายสุกฤษฏิ์ กลิ่นสนธิ์ ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาชุมพรได้มอบหมายให้ นายอนุเทพ แดงบุญ ผู้ช่วยผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาชุมพรพร้อมด้วยหัวหน้างานและพนักงานในสังกัดร่วมกิจกรรมร่วมกับจังหวัดชุมพรโดยมี นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรเป็นประธานในพิธี นำข้าราชการพลเรือน ตุลาการ ทหาร ตำรวจ เหล่ากาชาดจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พนักงาน เจ้าหน้าที่ ร่วมประกอบพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณ และพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ณ หอประชุมจังหวัดชุมพร ศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร
โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้ถวายราชสักการะ วางพวงมาลา จุดธูป เทียน เครื่องทองน้อย และกล่าวถวายราชสดุดี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีพระนามเดิมว่า "พระองค์ดำ" พระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตริย์ ทรงพระราชสมภพ ณ พระราชวังจันทน์ เมื่อปี พ.ศ. 2098 พระองค์ทรงมีพระเชษฐภคินีและพระอนุชา คือ พระสุพรรณกัลยา และสมเด็จพระเอกาทศรถ ในขณะที่พระองค์ทรงพระเยาว์ พระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์พม่า ได้ยกทัพมาตีเมืองพิษณุโลก และทรงขอสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไปเลี้ยงเป็นพระราชบุตรบุญธรรม เพื่อเป็นตัวประกันที่หงสาวดี จนพระชนมายุได้ 15 พรรษา พระองค์จึงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา และได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระมหาอุปราชปกครองเมืองพิษณุโลก ในปี พ.ศ.2098 ทรงหลั่งน้ำทักษิโณทก ณ เมืองแครง ประกาศอิสรภาพของชาติไทยโดยไม่ขึ้นกับพม่าอีกต่อไป และทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133
ในรัชสมัยของพระองค์ทรงกระทำสงครามขยายพระราชอาณาจักรไทย ให้แผ่ไพศาลไปในจตุรทิศ ทรงเป็นกษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ โดยพระองค์ได้กู้คืนอิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยา ช่วยกอบกู้เอกราชของชาติ ทรงผดุงความเป็นไทย ปกป้องรักษาแผ่นดินให้ปลอดพ้นภัยจากอริราชศัตรู เพื่ออิสรภาพของปวงชนชาวไทย โดยในปี พ.ศ. 2124 ทรงแสดงแสนยานุภาพในการยกกองทัพเข้าตีเมืองคังจนได้รับชัยชนะ ต่อมาในปี พ.ศ. 2127 ทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง และเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2135 ทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา จนได้รับชัยชนะ ทำให้พระบรมเดชานุภาพ แผ่ไพศาลไปทั่วปฐพี และปราบปรามหัวเมืองมอญฝ่ายใต้ ได้เมืองตะนาวศรี มะริด ทวาย ต่อมาปี พ.ศ. 2138 และ พ.ศ. 2142 ทรงยกทัพไปตีเมืองหงสาวดีได้เมืองเมาะลำเลิง และเมืองตองอู จนหัวเมืองไทยใหญ่ทั้งปวงยอมขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา
ทั้งนี้พระองค์ได้ทำสงครามเข้าไปในประเทศที่เป็นข้าศึกของไทย ในทุกทิศทาง จนประเทศไทยอยู่เป็นปกติสุขปราศจากศึกสงคราม เป็นระยะเวลายาวนาน พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ทั้งสิ้นทั้งปวงของพระองค์ เป็นไปเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและคนไทยทั้งมวล ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ จะอยู่ในสนามรบและชนบทโดยตลอด มิได้ว่างเว้น แม้แต่เมื่อเสด็จสวรรคต ก็เสด็จสวรรคตในระหว่างเดินทัพไปปราบศัตรูของชาติไทย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 รวมพระชนมพรรษา 50 พรรษา นับว่าพระองค์ได้ทรงสละพระองค์ เพื่อชาติบ้านเมืองโดยสิ้นเชิง สมควรที่ชาวไทยรุ่นหลังต่อมา ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ และจดจำวีรกรรมของพระองค์ ไปตราบชั่วกาลนาน

 
เลื่อนขึ้นข้างบน