06 มิถุนายน 2565

ผู้อำนวยการการประปาส่วนภูมิภาคเขต 4 ร่วมดูแลความก้าวหน้า
การสร้างพระอุโบสถ ณ วัดชุมพรรังสรรค์ อ.เมือง จ.ชุมพร
วันนี้ ( 6 มิถุนายน 2565 ) นายประทีป กุศลวัฒนะ ผู้อำนวยการการประปาส่วนภูมิภาคเขต 4 พร้อมด้วย นายสุกฤษฏิ์ กลิ่นสนธิ์ ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาชุมพร นายอนุเทพ แดงบุญ ผู้ช่วยผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาชุมพร หัวหน้างานพร้อมด้วยพนักงาน ร่วมเดินทางมายัง วัดชุมพรรังสรรค์ เพื่อดูแลความก้าวหน้า ในการสร้างอุโบสถ วัดชุมพรรังสรรค์พระอารามหลวงนั้น กปภ. ลูกค้าในพื้นที่ และประชาชน ได้ร่วมอนุโมทนาบุญ ในการบูรณะอารามหลวงให้มีความสวยงาม ทั้งนี้ กปภ.ขอ อนุโมทนาบุญ แก่ผู้ร่วมทอดกฐิน ในปีที่ผ่านมา
สำหรับประวัติความเป็นมาของ วัดชุมพรรังสรรค์ อ.เมือง จ.ชุมพรนั้น
วัดชุมพรรังสรรค์ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒ ตำบลนาทุ่ง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๒๒ ไร่ ๓ งาน ๕๐ ตารางวา โฉนดที่ดิน เลขที่ ๒๒๗๕
อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาการเปรียญ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กชั้นเดียว กุฏิสงฆ์ จำนวน ๔๐ หลัง นอกจากนี้มี ฌาปนสถาน หอกลอง โรงครัว เรือนเก็บพัสดุ กุฏิเจ้าอาวาส และเรือนรับรอง ปูชนียะวัตถุ มีพระประธานประจำอุโบสถ ปางมารวิชัย พระประธานประจำศาลาการเปรียญ ปางสมาธิ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒ วัดชุมพรรังสรรค์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๓ ผู้สร้างวัด คือ พระยากำแหงสงคราม (ซุ้ย) ในสมัยเมืองชุมพรตกอยู่ในอำนาจของพม่าเข้ายึด ราษฎรตกอยู่ในความลำบาก และทุกขืทรมาน นายซุ้ยได้สมทบกับพวกประมาณ ๓๐ กว่าคน เข้าตีค่ายพม่าได้สำเร็จพวกพม่าหนีข้ามภูเขาหินซอง เมื่อศึกสงบลงปรากฏว่านายซุ้ยได้รับสถาปนาฐานันดรศักดิ์เป็นพระยาเพชรกำแหงสงครามในสมัยรัชการที่ ๓ ราษฎรทั่วไปเรียกท่านว่า พระยาตับเหล็ก เพราะมีอาคมคงกระพันชาตรี ท่านได้สร้างวัดเพื่อเทิดพระเกียรติแด่องคืพระมหากษัตริย์และเพื่อเป็นเกียรติประวัติของตนที่ได้ชนะศึก กอบกู้เมืองชุมพรและเพื่อเป็นพุทธบูชาท่านได้ขนานนามว่า วัดราชคฤห์ดาวคะนอง เนื่องจากวัดตั้งอยู่ในที่ลุ่มและติดกับแม่น้ำท่าตะเภา เมื่อถึงฤดูฝนน้ำหลากเมืองชุมพร พระภิกษุสามเณรไม่สามารถจำพรรษาที่วัดได้ ต้องละทิ้งวัดเพื่อหนีอุทกภัย คณะสงฆ์และราษฎรเรียกวัดนี้ว่า "วัดท่าเภาเหนือ" ต่อมาในสมัยราชการที่ ๕ มีการก่อสร้างทางรถไฟได้ตัดทางสายใต้ผ่านเมืองชุมพร เนื้อที่วัดได้แยกออกเป็นสองส่วน ทำให้พื้นที่วัดคงเหลือเพียง ๒๒ ไร่ ๓ งาน ๕๐ ตารางวา ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ระเบิดลงผิดเป้าหมาย มาลงในวัด อาคารเสนาสนะ พระอุโบสถพังพินาศ คงเหลือแต่พระพุทธปฏิมากรภายในอุโบสถเพียงองค์เดียวนามว่า " สมเด็จพระรอดสงคราม " ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๘๘ สงครามได้ยุติลง พระปลัดเปี้ยน จนฺทสโร เจ้าอาวาสได้พัฒนาและปฏิสังขรวัด หลังจากที่วัดร้างไปเป็นเวลาถึง ๕ ปี สมัยนั้นการพัฒนาวัดแสนยากลำบากในการหาวัสดุมาก่อสร้างเสนาสนะ ต้องนำไม้จากประเทศพม่าและล่องมาตามแม่น้ำท่าตะเภา พระปลัดเปี้ยน จนฺทสโร ต้องใช้ความพากเพียรและอดทนในการพัฒนาวัดและปฏิสังขรณ์วัด ท่านได้ถึงแก่มรณภาพลงในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ วัดชุมพรรังสรรค์ได้สละที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนศรียาภัย เป็นโรงเรียนรัฐบาล ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด ผู้บริจาคที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียน คือ นางสาวชื่น ศรียาภัย ต่อมาได้ย้ายโรงเรียนไปตั้งอยู่ถนนพิศิษย์พยาบาล อาคารเรียนจึงว่างลง ท่านเจ้าคุณวิชัยธารโศภณและคณะกรรมการสงฆ์มีมติจัดตั้งโรงเรียนราษฎรภายในวัดชื่อว่า โรงเรียนพุทธยาคมศรียาภัย ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ คณะสงฆ์ได้เปลี่ยนชื่อ วัดท่าเภาเหนือเป็น "วัดชุมพรรังสรรค์" ปัจจุบันวัดชุมพรรังสรรค์เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างของจังหวัดชุมพร
สืบสาน สานต่อ วัดอารามหลวง ร่วมสร้างบุญด้วยหัวใจ